“มีนาทรานสปอร์ต(MENA)” มั่นใจเข้าเทรดวันแรก( 7 ก.ค.) นักลงทุนตอบรับล้นหลาม เหตุพื้นฐานแกร่ง เกาะกระแสโลจิสติกส์ที่กำลังมาแรง ด้านโบรกฯมองกำไรโตเฉลี่ยปีละ 16-35% ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ประเมินราคาพื้นฐานระหว่าง 1.45-1.76 บาท/หุ้น
*** ตลท. รับ “มีนาทรานสปอร์ต (MENA)” เข้าเทรดวันแรก
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท. รับหลักทรัพย์ บมจ. มีนาทรานสปอร์ต เข้าจดทะเบียนและ เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ในกลุ่มบริการ หมวดขนส่ง และ โลจิสติกส์ ในวันที่ 7 ก.ค.นี้ โดยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า MENA
MENA เป็นผู้ให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จ ขนส่งสินค้าอุตสาหกรรม เช่น ปูนซีเมนต์ ขี้เถ้าลอย แคลเซียม แร่แบเรียม ฯลฯ และ สินค้าอุปโภคบริโภค รวมทั้งจัดจำหน่ายวัสดุ อุปกรณ์ และ เครื่องมือในการก่อสร้าง โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO)ในราคาหุ้นละ 1.20 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 220.80 ล้านบาท และ มีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO เท่ากับ 880.80 ล้านบาท
*** ผู้บริหารมั่นใจ นักลงทุนให้การตอบรับดี
นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MENA เปิดเผยว่า มั่นใจหุ้น MENA ที่เข้าซื้อขายใน SET เป็นวันแรก จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นหุ้นในกลุ่มโลจิสติกส์ที่กำลังมีการเติบโตอย่างชัดเจน ตามแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่มีความต้องการรถขนส่งอย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดแข็ง บริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจขนส่งด้วยรถมิกซ์เซอร์รายใหญ่ของประเทศ ที่มีจำนวนรถ และ พนักงานจัดส่งลำดับต้นๆของอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างพูดคุยกับพันธมิตรทางธุรกิจอีกราว 3-4 โปรเจ็ก เพื่อขยายบริการด้านขนส่งไปยังกลุ่มสินค้าเฉพาะทาง และ สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นอีกแหล่งรายได้ที่ช่วยสนับสนุนให้ MENA มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นในอนาคต และ คาดจะเริ่มเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน รวมมูลค่า 220.80 ล้านบาท จะนำไปใช้ลงทุนโครงการในอนาคต 160.80 ล้านบาท รวมถึง นำไปใช้จ่ายคืนหนี้สิน 20 ล้านบาท และ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ 40 ล้านบาท สนับสนุนให้ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และ ต้นทุนทางการเงินลดลง
*** ASPS ให้ราคาพื้นฐาน 1.45 บ. คาดกําไรโตเฉลี่ยปีละ 16%
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส(ASPS) มองว่า กําไรปี 64-66 ของ MENA จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 16% จากปี 63 ที่ 35 ล้านบาท ขึ้นสู่ระดับ 54 ล้านบาท ในปี 66 โดยกําไรที่จะเติบโต 10.7 %YoY ในปี 64 มาจากรายได้ธุรกิจ ขนส่งด้วยรถ Mixer (สัดส่วนรายได้ 68%) ที่เติบโต 11%YoY ตามการขยายกองยานรถ ขนส่ง รองรับลูกค้ากลุ่มโรงปูนที่ต้องการขยายกองยานรถเพื่อใช้ในงานก่อสร้างรถไฟ เชื่อมสนามบิน และ รถไฟ ไทย-จีน เป็นต้น ขณะที่รายได้ธุรกิจขนส่งด้วยรถ Trailer (สัดส่วนรายได้ 27%) คาดรายได้ลดลง 3%YoY หลังการขายรถ Trailer ออกไปบางส่วน
โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมอิง PER 22 เท่า ตามค่าเฉลี่ยหุ้นเปรียบเทียบในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มขนส่ง ให้มูลค่าพื้นฐานสิ้นปี 65 ที่ 1.45 บาท คาดหวังเงินปันผลปีนี้ 0.03 บาท
*** เคจีไอ ให้ราคาเหมาะสม 1.70 บ.
บล. เคจีไอ ประเทศไทย คาดกำไรสุทธิของ MENA ในปี 64-65 ไว้ที่ระดับ 49 ล้านบาท (+40.0% YoY) และ 59 ล้านบาท (+ 20.8% YoY) ตามลำดับ ซึ่งสะท้อนภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทที่จะเติบโตตามการฟื้นตัวที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว ภายหลังการระบาดของ COVID-19 ที่ลดความรุนแรงลง ซึ่งจะทำให้การดำเนินธุรกิจ และ ชีวิตประจำวันของประชาชนโดยทั่วไปเริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ เชื่อว่า MENA จะได้อานิสงส์บวกจากแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วง 2 ปีข้างหน้าโดยมีปัจจัยหนุนจากความต้องการใช้บริการขนส่งปูนซีเมนต์ และ วัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งการพัฒนาประเทศระยะยาว
โดยประเมินราคาเหมาะสมสำหรับปี 65 ของหุ้น MENA ไว้เท่ากับ 1.70 บาท โดยใช้วิธี PE ratio (อ้างอิง PE ที่ระดับ 21.2 เท่า ซึ่ง discount จาก PE ของกลุ่มขนส่งประมาณ 30% สำหรับค่าเฉลี่ยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา) ซึ่งเห็นว่าเป็นระดับอนุรักษ์นิยมในการกำหนดมูลค่าที่เหมาะสมสำหรับ MENA ในช่วงที่มีปัจจัยความเสี่ยงจากการระบาดของ COVID-19 อย่างต่อเนื่อง
*** แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ให้ราคาพื้นฐาน 1.76 บ.
บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มองว่า กำไรปีหน้าของ MENA จะเติบโตได้ดี เพิ่มขึ้น 51% YoY เป็น 56 ล้านบาท และ คาดเติบโตเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 34% ใน 3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะหนุนให้ ROE ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเป็น 9.4% ในปี 67 โดยประเมินราคาเป้าหมายพื้นฐานไว้ที่ 1.76 บาท